ปักกิ่ง : ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรองรับการระบาดรอบ 2 ต้องหยุดทานของดิบกันจริงจังแล้วกระมัง
ปักกิ่ง : ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรองรับการระบาดรอบ 2 ต้องหยุดทานของดิบกันจริงจังแล้วกระมัง ปักกิ่งเกิดการระบาดของโควิด19 รอบสองเรียบร้อยแล้วจำนวนรวม 53 คน • ตลาดสดทุกแห่งถูกสั่งปิด • ที่พักอาศัยในเขตเฟิงไถใกล้กับตลาดสดต้นเหตุถูกปิดไม่ให้คนเข้า-ออก • โรงเรียนประกาศเลื่อนการเปิดเทอมออกไป • เกิดการกักตุนอาหาร หน้ากากอนามัยกันอีกครั้ง • ซุปเปอร์มาเกตของสดหมดเกลี้ยง โดยที่ปักกิ่งไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 56 วัน (ของไทยเรา 19 วัน) แต่ก็เกิดมาพบคุณลุงอายุ 50 ปีเศษ มีอาการไข้แล้วตรวจพบเชื้อก่อโควิด19 คุณลุงยืนยันว่าช่วง 14 วันที่ผ่านมาไม่ได้ออกไปนอกกรุงปักกิ่งเลย และก็ใส่หน้ากากตลอดเมื่อออกนอกบ้าน แล้วคุณลุงติดเชื้อมาจากไหน อาจเป็นได้ 2 ทางด้วยกันคือ 1) รับเชื้อมาก่อนหน้านี้แล้วจากนอกกรุงปักกิ่งเป็นเวลามากกว่า 14 วัน แล้วเพิ่งมาเกิดอาการ แปลว่าระยะฟักตัวมากกว่า 14 วัน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้อยู่บ้าง เพราะมีรายงานมาก่อนหน้านี้แล้วในบางประเทศ 2) แต่ถ้าเกิดการติดเชื้อภายใน 14 วันจริง แปลว่าต้องเกิดการติดเชื้อภายในเขตกรุงปักกิ่งเอง (Local Transmission) คราวนี้ก็ยุ่งสิครับ ต้องรีบเร่งค้นหาแหล่งแพร่เชื้อกันด่วนเลยทีเดียว แล้วเชื้อที่ติดกันเองในกรุงปักกิ่งนั้น มาจากไหนกันล่ะ ก็มาได้ 2 ทางครับ 2.1) เชื้อมาจากนอกกรุงปักกิ่ง อาจเป็นเมืองอื่น หรือมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่ได้มาจากคนก็ต้องมาจากอาหารหรือสิ่งของนำเข้า 2.2) เชื้อมาจากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการใดใด แต่แฝงตัวอยู่ในกรุงปักกิ่งเงียบๆมาโดยตลอด ลำดับเวลาของการระบาดรอบสอง 11 มิถุนายน 2563 : พบผู้ติดเชื้อและแสดงอาการรายแรกของการระบาดรอบ 2 12 มิถุนายน 2563 • พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย ซึ่งเป็นพนักงานศูนย์วิจัยเนื้อสัตว์แห่งประเทศจีน เขตเฟิงไถ • พบผู้ติดเชื้ออีก 4 ราย มีประวัติไปตลาด Xinfadi ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ใหญ่ที่สุดของจีน (700ไร่) อยู่ในเขตเฟิงไถเช่นเดียวกัน 13 มิถุนายน 2563 • มีคำสั่งจากเทศบาลนครปักกิ่งให้ปิดตลาดต้องสงสัยคือ Xinfadi และพยายามรวบรวมรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับตลาดทั้งหมดจำนวน 5,500 คน แยกเป็นผู้เช่าแผง 4,000 คน และเจ้าหน้าที่ตลาดอีก 1,500 คน • โดยเบื้องต้นจากการตรวจ 517 ราย ด้วยวิธีการตรวจสารคัดหลั่งจากคอ พบผู้ติดเชื้อ 46 ราย โดย 45 รายมาจากตลาด Xinfadi อีก 1 รายมาจากตลาดเขตไห่เตียน และกำลังเร่งตรวจผู้เกี่ยวข้องอีก10,000คน กลายเป็นเรื่องใหญ่ทันทีสำหรับเมืองที่ปลอดการติดเชื้อและมีการผ่อนคลายมาร่วม2เดือน จากการตรวจสอบหาแหล่งเชื้อไวรัสเบื้องต้น พบว่า อาจมาจากปลาแซลมอนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ด้วยความรู้ ณ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานการติดเชื้อในปลาแซลมอน จึงคาดว่าน่าจะมีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสที่ติดมากับปลา (อาจมาจากคนที่เตรียมปลาแซลมอนส่งออกจากประเทศต้นทาง เกิดติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการก็เป็นได้) และจากที่เราทราบกันแล้วว่าเชื้อไวรัสนี้ ถ้าอุณหภูมิต่ำจะอยู่ได้นาน เช่น 4 องศาเซลเซียส อยู่ได้ถึง 28 วัน ก็แปลว่าถ้าบังเอิญมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนมากับปลา แล้วปลาถูกแช่เย็นเพื่อส่งขายต่างประเทศ ไวรัสก็จะยังคงสามารถก่อโรคได้ แต่ถ้าปลาหรืออาหารนั้นถูกทำให้สุกโดยใช้ความร้อน ไวรัสก็จะตายไม่สามารถทำอันตรายเราได้ เนื้อสัตว์อื่นๆก็เช่นกัน คงจะมาถึงบทสรุปตรงนี้ว่า ถ้าพวกเราทุกคนทานร้อน คือทานอาหารสุก หลีกเลี่ยงการทานเนื้อปลาดิบ รวมทั้งสเต๊กเนื้อวัว เนื้อแกะ ที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ (โดยเฉพาะประเทศตะวันตกที่ยังมีการระบาดของโรคอยู่) ก็จะทำให้เราปลอดภัยจากโควิด19 เราจึงควรหันมาทานปลา,เนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกแล้ว หรือผักผลไม้ต่างๆที่ผลิตในประเทศของเราเอง (โดยควรล้างให้สะอาดด้วยทุกครั้ง ) เพราะประเทศไทยตอนนี้ถือว่าเป็นประเทศปลอดภัยในลำดับต้นๆของโลกครับ อ้อ แล้วอย่าลืมเรื่องล้างมือบ่อยๆ และห้ามนำมือมาขยี้ตา แคะจมูก หรือนำเข้าปากด้วยนะครับ
|