งานวิจัยยอมรับแล้วว่า ใส่หน้ากากป้องกันโควิดได้ดีที่สุด

งานวิจัยอังกฤษยอมรับแล้วว่า ใส่หน้ากากป้องกันโควิดได้ดีที่สุด

 

วันนี้มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 0 ราย

ผู้ป่วยที่ติดในประเทศ 0 ราย (ติดต่อกัน 17 วันแล้ว) และไม่มีจาก State Quarantine

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศ 3,125 ราย

ผู้เสียชีวิต ทั้งหมด 58 ราย (+0 ราย)

ยังรักษาในโรงพยาบาลเหลือเพียง 80 ราย

ตั้งแต่มีการระบาดจากคลัสเตอร์สนามมวย และบาร์ย่านทองหล่อ ทำให้รัฐออกมาตรการเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

• ก่อนปิดประเทศมีผู้ป่วย 2,444 คน

• หลังมีการปิดประเทศ งดให้คนต่างชาติเข้าประเทศไทย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมใน State Quarantine 188 คน

ขณะนี้การติดในประเทศเป็น “0” รายกัน 17 วันติดต่อกันแล้ว ผู้ป่วยในช่วงล่าสุดจึงมาจากเฉพาะสถานที่กักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และอนุญาตให้เฉพาะคนไทยที่อยู่ต่างประเทศทั่วโลก เดินทางกลับไทยได้

State Quarantine มีผู้ป่วยสะสมขณะนี้ 188 คน

• รักษาหายกลับบ้านแล้ว 98 ราย

• ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 90 ราย

• ในทุกวันเรายังจะต้องมีคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และยังจะต้องพบเชื้อจาก State Quarantine อยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังปลอดภัย เพราะตรวจพบและกักตัวไว้ได้ก่อน

คูเวต เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุด คือ คนไทยเดินทางกลับมาแล้วพบว่าติดเชื้อสูงสุด ร้อยละ 46.67

กลุ่มอาชีพเสี่ยงที่ติดมากที่สุด ใน 2 สัปดาห์ล่าสุด ได้แก่

• อันดับ 1 นักเรียน/นักศึกษา (27.4%)

• อันดับ 2 พนักงานนวด/สปา (20.55%)

• อันดับ 3 รับจ้างทั่วไป/ฟรีแลนซ์ (19.18%)

• อันดับ 4 พนักงานบริษัท/โรงงาน (17.81%)

• อันดับ 5 นักท่องเที่ยว (4.11%)

ในอดีตอาชีพที่เสี่ยงที่สุด คือ รับจ้างทั่วไป ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว พนักงานบริษัท/โรงงาน และนักเรียน/นักศึกษา

 

อันดับของประเทศไทยในโลก

• วันนี้ไทยมียอดผู้ติดเชื้อ อยู่อันดับที่ 85 ของโลก

• ประเทศที่มีคนเป็นมากที่สุด อันดับ 1 ของโลก คือ สหรัฐฯ 2 ล้านกว่าคน

• ประเทศที่มีการระบาดร้อนแรงที่สุดในโลก (อันดับ 2 ของโลก) คือ บราซิล 7 แสนกว่าคน

• ประเทศที่ระบาดหนักที่สุดในเอเชียขณะนี้ คือ อินเดีย (อันดับ 6 ของโลก) มีการติด 1หมื่นกว่าคน/วัน

• ประเทศที่ระบาดมากที่สุดในอาเซียน คือ สิงคโปร์ แต่ควบคุมได้แล้ว

• ประเทศที่น่าเป็นห่วงล่าสุดในเอเชีย คือ บังคลาเทศ (อันดับ 19 ของโลก)

อเมริกา-แคนาดา เล็งขยายเวลาปิดชายแดน เพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด-19 ถึงสิ้นเดือน ก.ค.

ผลศึกษาจากประเทศอังกฤษชี้ “ล็อกดาวน์” ช่วยหลายล้านชีวิตพ้นภัยโควิด ส่วนการศึกษาในสหรัฐฯ พบว่า มาตรการล็อกดาวน์สามารถช่วยป้องกันและชะลอการติดเชื้อโควิดของผู้คนได้ถึง 530 ล้านคน

ในขณะที่ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัย เคมบริดจ์ และมหาวิทยาลัยกรีนิช ประเทศอังกฤษ ระบุว่า การล็อกดาวน์อย่างเดียว ไม่สามารถยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ “การสวมหน้ากากอนามัย/ผ้าทุกคน” ในที่สาธารณะ จะสามารถลดการแพร่เชื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ (ลดค่า R = Reproduction number) ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก

 อย่างที่เราเคยทราบกันดีว่า การเว้นระยะห่าง 2 เมตร (6 ฟุต) ช่วยได้ เพราะการติดเชื้อจะติดทางละอองฝอยของน้ำลาย (Droplet) แต่ก็ขึ้นอยู่กับความแรงในการไอ/จามของผู้ที่มีอาการ ลักษณะพื้นที่เปิด/ปิด

ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การสวมหน้ากากอนามัย/ผ้าทุกคน >> คนที่เป็นก็ไม่แพร่เชื้อออกไป คนที่ไม่เป็นก็จะไม่รับเชื้อเข้ามา

จากโพลสำรวจของกรมควบคุมโรค (DDC Poll) พบว่า เราเริ่มสวมหน้ากากลดลง เว้นระยะห่างน้อยลง กรมควบคุมโรคจึงจะต้องรณรงค์ให้คนยังต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไปจนกว่าเราจะมีวัคซีนป้องกัน

 
 
 

ที่มาของข้อมูล:

- ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

- Facebook: ศูนย์ข้อมูล COVID-19 สายด่วน 1111

Visitors: 1,403,284