วิธีใช้บริการ ร้านอาหาร ร้านตัดผม และตลาดนัดหลังคลาย ล็อกดาวน์

วิธีใช้บริการ 'ร้านอาหาร ร้านตัดผม และตลาดนัด' หลังคลาย 'ล็อกดาวน์'

รวมกฎเหล็กในการให้บริการ และวิธีใช้บริการ "ร้านอาหาร ร้านตัดผม และตลาดนัด" หลังคลาย "ล็อกดาวน์" ตั้งแต่ 3 พ.ค. 63 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าหรือ "โควิด-19"

วิธีใช้บริการ 'ร้านอาหาร ร้านตัดผม และตลาดนัด' หลังคลาย 'ล็อกดาวน์'

กิจการจุดเสี่ยง "โควิด-19" เตรียมเปิดให้บริการอีกครั้งวันที่ 3 พ.ค.เป็นต้นไป หลังรัฐบาลประกาศคลาย "ล็อคดาวน์" อย่างไรก็ดีการเปิดให้บริการในครั้งนี้ยังไม่ใช่สถานการณ์ปกติ และจำเป็นต้องมี "กฎเหล็ก" ในการให้บริการและรับบริการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ต้องมีการป้องกันและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

พาไปดูกฎเหล็กของ 3 กิจการ "ร้านอาหาร ร้านตัดผม และตลาดนัด" พร้อมทั้งวิธีการปฏิบัติตัวเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปใช้บริการเหล่านี้

 

ร้านอาหาร

- แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ให้บริการ

สำหรับ "ร้านอาหาร" ไม่รวมถึงร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ต คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติตั้งแต่เจ้าของร้าน พนักงาน และลูกค้าโดยเฉพาะเจ้าของกิจการร้านอาหารตั้งจัดจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิลูกค้าทุกคน

โดยต้องจัดที่นั่งรับประทานอาหารในร้าน และต้องเว้นระยะห่างทางกายภาพ 1.5 เมตร พร้อมทั้งงดการให้บริการในลักษณะที่ลูกค้าประกอบอาหารที่โต๊ะเอง เช่น ชาบู สุกี้ ปิ้งย่าง และงดการให้บริการอาหารประเภทบุฟเฟต์ที่ลูกค้าตักอาหารเอง แต่สามารถให้บริการบุฟเฟต์ ที่สั่งจากรายการอาหารได้

นอกจากนี้ให้ "งดจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด" รวมถึงงดนำสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้าไปทานในร้าน แต่ให้จำหน่ายกลับบ้านเท่านั้น โดยภายในร้านอาหาร ยังต้องงดการเล่นดนตรี การแสดงสด

 

ส่วน ร้านข้าวราดแกง ต้องจัดให้มีฉากใสกั้นกลางระหว่างลูกค้าและอาหาร เพื่อป้องกันละอองฝอยจากการสั่งอาหารของลูกค้ากระเด็นใส่อาหาร และต้องจัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลบริการ จุดทางเข้า-ออกหรือบริเวณต่างๆ ของร้านอาหารด้วย

ทั้งนี้ ระหว่างที่เปิดให้บริการ ผู้ให้บริการจะต้องทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ น้ำยาฟอกขาว 0.1% ทุกครั้งที่ลูกค้าใช้ ทำความสะอาดพื้น ทางเดิน ราวบันไดห้องน้ำ ลูกบิดประตู หรือเคาท์เตอร์ ด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และต้องทำความสะอาดห้องสุขาทุกชั่วโมง

 

หากเป็น ร้านอาหารที่ติดเครื่องปรับอากาศ ให้ปิดเครื่องปรับอากาศและปิดร้านเพื่อทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมง โดยติดป้ายประกาศแจ้งรอบในการทำความสะอาดหน้าร้าน ต้องเข้มงวดการทำความสะอาดภาชนะ ตั้งแต่ "ถ้วย จาน ชาม ช้อน ส้อม" ส่วนการรอซื้ออาหารหรือเข้าร้าน ต้องมีระยะห่างในการเข้าแถว 1.5 เมตร โดยร้านค้าต้องทำสัญลักษณ์ "จุดยืน" สำหรับลูกค้า และต้องมีพนักงานควบคุมการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อทางเท้าหรือสถานที่ใกล้เคียง

สำหรับพนักงาน ในร้านจะต้อง "รวบผม ใส่ถุงมือ ใส่หมวก ผ้ากันเปื้อน ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และใส่ Face Shield" หากพนักงานมีอาการป่วย มีไข้ ไอหรือมีอุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ให้หยุดปฏิบัติงานและพบแพทย์ทันที ขณะที่ "ผู้ปรุงอาหาร" ต้องล้างมือทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร ส่วน "พนักงานเสิร์ฟ" ต้องล้างมือก่อนเสิร์ฟอาหาร และพนักงานเสิร์ฟต้องใช้ระดับเสียงปกติในการพูด ไม่ตะโกนและไม่เปิดหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าในขณะให้รับบริการ

- แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ใช้บริการ

ลูกค้าต้องรักษาสุขอนามัยล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือฟอกสบู่หลังการใช้บริการทุกครั้ง หากมีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบไม่ให้เข้าใช้บริการ และควรไปพบแพทย์ทันที เน้นไปที่งดรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นครอบครัว เพราะจะต้องรักษาระยะห่าง 1.5 เมตร หรือขอความร่วมมือซื้ออาหารกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น

 

ร้านตัดผม และร้านเสริมสวย

- แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ให้บริการ

"ร้านตัดผม-ร้านเสริมสวย" กำหนดการให้บริการได้แค่การ "ตัด สระ ไดร์" เท่านั้น โดยต้องจัดจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ใช้บริการก่อนเข้าร้าน ไม่ให้มีพื้นที่นั่งคอยในร้าน โดยต้องให้ลูกค้านัดหมายผู้ให้บริการล่วงหน้า จัดเตรียมจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์ มีการให้บริการเป็นรอบ เพื่อปิดทำความสะอาดทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงต้องทำความสะอาดแต่ละรอบไม่ต่ำกว่า 20 นาที

กฎเหล็กสำหรับเจ้าของร้าน ต้องทำ "ตารางเวลา" ทำความสะอาดไว้เป็นหลักฐาน จัดเก้าอี้ทำผมให้มีระยะอย่างน้อย 1-2 เมตร ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกัน ได้แก่ เก้าอี้ ผ้าคลุมตัวเตียงสระ ไดร์เป่าผม หวี กรรไกร ปัตตาเลี่ยน

โดยภายหลังมีการให้บริการกับลูกค้าทุกราย ต้องจดบันทึก ชื่อผู้ใช้บริการและช่องทางติดต่อลูกค้าทุกราย ในกรณีเกิดการแพร่กระจาย จะได้สามารถทราบว่าลูกค้าเป็นใครพักอยู่ที่ใด เพื่อสะดวกในการสอบสวนโรค

ที่สำคัญที่สุด ผู้ให้บริการจะต้อง "รวบผม ใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และ Face Shield" งดเว้นการให้บริการตัดขนจมูก หรือบริการที่จับใบหน้าของลูกค้า นอกจากนี้ ระหว่างการสระผมให้ผู้ใช้บริการถือหน้ากากกันสเปรย์ (หน้ากากที่เป็นรูปหน้าคน) เพื่อป้องกันละอองฝอยจากผู้ให้บริการ และทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากใช้บริการ ลูกค้าและพนักงานที่มีอุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศาเซียลเซียส หรือมีอาการเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ให้งดบริการและพบแพทย์ทันทีงดให้บริการรับประทานอาหารภายในร้านแก่ลูกค้า

 

- แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ใช้บริการ

ลูกค้าต้องโทรจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น เลี่ยงการนั่งรอในร้าน ขณะที่มีผู้ใช้บริการรายอื่นๆ อยู่ภายในร้าน และต้องสวมใส่ หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่เข้ารับบริการ

 

 

ตลาด หรือตลาดนัด

- แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ให้บริการ

เจ้าของกิจการ ตลาด และตลาดนัด ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่งเคร่งครัด เนื่องจากตลาดเป็นสถานที่ที่มีผู้ใช้บริการหลายคน ในเวลาเดียวกันเสมอ และมักมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก โดยจำเป็นต้องกำหนดทางเข้า-ออกให้เหมาะสมต่อพื้นที่ สามารถเว้นระยะห่างในการเข้าใช้บริการได้สะดวก มีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายทั้งผู้ขายและประชาชนก่อนเข้าไปในพื้นที่และจัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล บริเวณทางเข้า-ออก จัดพื้นที่ให้มีระยะห่างระหว่างบุคคลในการเลือกซื้อสินค้า 1.5 เมตร จัดระยะระหว่างแผงค้าให้มากกว่า 1.5 เมตร ทำความสะอาดตลาดพื้นที่สาธารณะสุขาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

ผู้ให้บริการ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ตลาด โดยต้องงดให้บริการเครื่องเล่นเด็กในพื้นที่ตลาด เช่น ม้าหมุน บ้านบอล อาหารปรุงสำเร็จให้จัดใส่ถุง หรือภาชนะมีฝาปิด หรือมีฉากใสกั้นระหว่างลูกค้าและอาหาร เพื่อป้องกันละอองฝอยจากการสั่งอาหารของลูกค้ากระเด็นใส่อาหาร

- แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ใช้บริการ

ผู้ใช้บริการ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ตลาด พยายามเว้นระยะห่างจากผู้ขาย หรือคนอื่นๆ ที่อยู่ในตลาดอย่างน้อย 1.5 เมตร

 

 

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/878861

Visitors: 1,403,281