จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ ! “จริง ๆ เเล้ว ใน 1 วัน มันไม่ได้มี 24 ชั่วโมง เเต่มันมี 23 ชั่วโมง 56 นาที 4.09 วินาที ต่างหาก” ซึ่งระยะเวลาในเเต่ละวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ที่จะถอยออกห่างไปจากโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอัตรา 3.82 เซนติเมตรต่อปี ดังนั้น กว่าที่โลกของเราจะมี 1 วัน 24 ชั่วโมง อย่างแท้จริงนั้น จะต้องใช้เวลาอีกถึง 15 ล้านปีเลย “เเล้วถ้าวันหนึ่งดวงจันทร์เกิดเคลื่อนที่ออกไปไกลจนมันหลุดวงโคจรของโลกละ มันจะเกิดอะไรขึ้น ?” การค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อสันนิษฐานต่างๆ จนกลายมาเป็นบทสรุป 7 ข้อ ที่พอจะบอกได้ว่า “มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์” 1) โลกจะหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิม “ดวงจันทร์ก็เหมือนกับการหมุนของนักสเก็ตน้ำแข็ง คือ ถ้าเก็บแขนเเนบไว้ที่หน้าอก...การหมุนก็จะเร็วขึ้น เเต่ถ้าเกิดเหยียดแขนออก...การหมุนก็จะช้าลง” ดังนั้น หากดวงจันทร์หายไป โลกจะขาดความเสียดทาน “ที่เรียกว่าความเสียดทานไทดัล” (Tidal Friction) ซึ่งจะส่งผลให้โลกหมุนรอบตัวเองเร็วขึ้น เเละจะส่งผลให้ในเเต่ละวันนั้นผ่านไปเร็วขึ้นด้วยนั่นเอง 2) โลกอาจแกว่งตัวอย่างรุนแรง หากเปรียบดวงจันทร์เหมือนกับการหมุนของนักสเก็ตน้ำแข็ง การที่โลกไม่มีดวงจันทร์ก็ไม่ต่างอะไรกับนักสเก็ตน้ำแข็งที่เเขนขาด เพราะนอกจากจะทำให้การหมุนเร็วขึ้นเเล้ว มันยังทำให้นักสเก็ตน้ำแข็งคนนั้นทรงตัวไม่ได้จนเเกว่งไปมาเเบบไม่มีทิศทางอีกด้วย เพราะแรงดึงดูดของดวงจันทร์นั้นมีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก ซึ่งถ้าหากดวงจันทร์หายไป แกนโลกจะเปลี่ยนแปลงจนเกิดการแกว่งตัวครั้งใหญ่ คราวนี้มันก็จะทำให้ฤดูกาลบนโลกนี้มั่วไปหมด จนสิ่งมีชีวิตบนโลกจำนวนมากไม่อาจอยู่รอดได้อีกต่อไป 3) ประเทศไทยอาจกลายเป็นเมืองหนาว ด้วยเเรงดึงดูดของดวงจันทร์ที่มีอิทธิพลต่อโลก ซึ่งทำหน้าที่คอยถ่วงแกนโลกให้เอียงอยู่ในระดับ 23.5 องศา นั่นจึงทำให้ประเทศที่อยู่ในบริเวณเส้นศูนย์สูตรจะเป็นเขตร้อน เพราะเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์อยู่ตรงเหนือศีรษะพอดี เเต่ถ้าวันหนึ่งโลกนี้เกิดไม่มีดวงจันทร์ขึ้นมา โลกก็จะไม่ได้เอียงอยู่ในระดับ 23.5 องศา เเละดวงอาทิตย์ก็จะไม่อยู่เหนือศีรษะของประเทศที่อยู่ตรงเส้นศูนย์สูตรอีกต่อไป ทำให้บริเวณขั้วโลกที่เคยหนาวเหน็บก็จะกลายเป็นเขตร้อน ส่วนบริเวณเส้นศูนย์สูตรที่เคยเป็นเขตร้อนก็จะกลายเป็นเขตหนาว ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่เเน่ว่าประเทศไทยที่อยู่ตรงบริเวณเส้นศูนย์สูตรพอดี ก็อาจจะมีหิมะตกลงมา...ก็...เป็น...ได้… 4) กระแสน้ำจะอ่อนกำลังลงอย่างมาก อย่างที่ทราบกันดีว่า ดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง ดังนั้นการที่โลกไม่มีดวงจันทร์ แรงดึงดูดของกระแสน้ำก็จะไปขึ้นอยู่กับดวงอาทิตย์แทน และด้วยความที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากโลกมาก จึงทำให้กระแสน้ำที่เกิดจากแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวจะอ่อนกำลังลงเหลือเพียง 40% เท่านั้น เมื่อเทียบกับกระแสน้ำแบบเดิมที่ขึ้นอยู่กับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์รวมกัน 5) จะมีสัตว์ตาโปนมากขึ้น เนื่องจากท้องฟ้าที่มืดมิด สัตว์นานาชนิดจึงต้องมีการวิวัฒนาการขึ้นให้มี “ดวงตาโปน” มากขึ้นกว่าเดิม โดย นีล โคมินส์ นักดาราศาสตร์ ชื่อดังคนหนึ่ง ได้กล่าวเอาไว้ว่า สัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืนจะต้องพัฒนาดวงตาของพวกมันให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีประสาทสัมผัสที่ดีขึ้น เพื่อช่วยในนำทาง หาอาหาร และสืบพันธุ์ ในเวลากลางคืน ซึ่งภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิดไร้ดวงจันทร์ สัตว์เหล่านี้จะถูกบังคับให้ปรับตัวเป็นสัตว์ที่สามารถมองเห็นกลางคืนได้อย่างชัดเจน 6) การสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำจะเปลี่ยนไป การไม่มีดวงจันทร์ ทำให้ช่วงจังหวะเวลาการสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำหลายชนิดที่ต้องอาศัยแสงจากดวงจันทร์ที่มากระทบกับผิวน้ำต้องเปลี่ยนไป จากการศึกษาพบว่า หากโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์สัตว์หลายชนิดอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่าง เช่น ปลากรูเนียน ที่จะวางไข่หลังจากพระจันทร์เต็มดวงเพียง 2-3 วันเท่านั้น ดังนั้น หากโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ ปลากรูเนียนก็อาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสืบพันธุ์ หรือถ้ามันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ มันก็อาจจะสูญพันธุ์ไปเลย... 7) ท้องฟ้ายามค่ำคืนจะมืดสนิท ทุกวันนี้เราสามารถมองเห็นในตอนกลางคืนได้ก็เพราะโลกนี้ได้รับอิทธิพลของเเสงจันทร์ ซึ่งถ้าเกิดวันหนึ่งโลกนี้ไม่มีดวงจันทร์ขึ้นมา ท้องฟ้ายามค่ำคืนก็จะดำมืดสนิทจนเรามองไม่เห็นอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ถึงเเม้วันหนึ่งดวงจันทร์อาจดับสลาย จนท้องฟ้ายามค่ำคืนต้องดำมืดจนมองไม่เห็นอะไร...เเต่สิ่งเดียวที่คุณไม่อาจปล่อยให้ดำมืดไป นั่นคือ "หัวใจของคุณเอง"
Reference : เพจ : สมองไหล |