ข้อดีของ J-Alert ระบบแจ้งเตือนภัยในญี่ปุ่น
เทคโนโลยีทันสมัย ระบบ J-Alert ในญี่ปุ่นมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย, เช่น Cell Broadcast, ทำให้สามารถแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.
ความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การแจ้งเตือนมีความรวดเร็ว และการทำงานร่วมกับหลายช่องทางการสื่อสารทำให้มีประสิทธิภาพมาก
ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันประเทศไทยมีระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติที่ทำหน้าที่เตือนและแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีเหตุการณ์และสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งระบบนี้มีหลายช่องทางการแจ้งเตือนต่าง ๆ ดังนี้
1.หน่วยงานราชการ: สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการเฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉินและมีการแจ้งเตือนผ่านทางสื่อมวลชน เช่น การประกาศผ่านทางวิทยุ, โทรทัศน์, และสื่ออื่น ๆ.
2.SMS Alert มีระบบส่งข้อความทาง SMS แจ้งเตือนภัยพิบัติไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของประชาชนที่ลงทะเบียนไว้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.
3.แอปพลิเคชัน บางหน่วยงานได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยในการแจ้งเตือนภัยและให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น แอป "Thailand's Early Warning" ที่ถูกพัฒนาโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย.
4.หน่วยงานท้องถิ่น: ทุกท้องที่มีอำเภอ, ตำบล และหน่วยงานระดับท้องถิ่นมีบทบาทในการแจ้งเตือนและการประสานงานกับประชาชนในพื้นที่ของตน.
5.สื่อมวลชน: สื่อมวลชนเช่น วิทยุ, โทรทัศน์, และสื่อออนไลน์ที่มีบทบาทในการแจ้งเตือนภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตามประเทศไทยเองก็คงยังต้องพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติให้รวดเร็วและทันสมัยเทียบเท่ากับประเทศอื่นๆ เนื่องจากในครั้งก่อนๆอาจยังมีความล่าช้าในการแจ้งเตือนภัย และ J-Alert ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีการแจ้งเตือนภัยพิบัติที่รวดเร็ว เตือนภัยได้ล่วงหน้า และสร้างความสบายใจให้กับประชาชนชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
ที่มา : Esolia
ที่มา : https://www.springnews.co.th/digital-tech/technology/846545