เปิดตัวปีศาจวันฮาโลวีน 2023 เมื่อกล่าวถึงวันฮาโลวีนต้องนึกถึงปีศาจเหล่านี้
เปิดตัวปีศาจวันฮาโลวีน 2023 เมื่อกล่าวถึงวันฮาโลวีนต้องนึกถึงปีศาจเหล่านี้วันฮาโลวีน เป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคม ประเทศทางตะวันตก เด็กๆ จะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง มีการประดับประดาแสงไฟ และฟักทอง และสิ่งที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์สำคัญของงานก็คือการได้แต่งตัวเป็นผีร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีนนั่นเอง วันนี้เราก็จะมาเปิดประวัติ ปีศาจฮาโลวีน ว่ามีที่มาจากไหน โดยปีศาจแต่ละตัวเรียกว่าเป็นที่นิยมมากๆ ถึงขนาดที่เมื่อพูดคำว่าฮาโลวีน เหล่าปีศาจพวกนี้จะเข้ามาในความคิดเป็นอันดับต้นๆ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย ประวัติของปีศาจแต่ละตัวในวันฮาโลวีนแวมไพร์ ปีศาจในวันฮาโลวีนแวมไพร์ เป็นผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้แสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, หมาจิ้งจอก, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน รวมถึงสามารถบังคับสิ่งของให้เคลื่อนที่ด้วยอำนาจของตนได้ด้วย สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเองมนุษย์หมาป่า ปีศาจในวันฮาโลวีนมนุษย์หมาป่า เป็นผีตามความเชื่อของชาวยุโรปในยุคกลาง จัดเป็นผีจำพวกเดียวกับแวมไพร์หรือผีดิบดูดเลือดชนิดหนึ่ง คือ เป็นผีที่สามารถแปลงร่างเป็นทั้งมนุษย์และหมาป่าได้ อาหารของมนุษย์หมาป่าก็คือ เนื้อและเลือดสด ๆ ของมนุษย์ โดยจะออกหากินในเวลากลางคืน เหยื่อโดยมากจะเป็นเหยื่อที่มาเพียงคนเดียว มนุษย์หมาป่ามีทั้งที่เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งหมาป่า และกลายร่างเป็นหมาป่าทั้งตัว เชื่อกันว่ามนุษย์หมาป่าสามารถกลับหนังของตนเข้าข้างในเพื่อหลบซ่อนขนหมาป่าเมื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์หมาป่าจะถูกถลกหนังออกเพื่อล่าเอาหนังหมาป่าไว้เชื่อกันว่า ผู้ที่กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าเป็นเพราะถูกสาปหรือเกิดจากอุบัติเหตุที่สยดสยอง บุคคลนั้นต้องกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าทุกค่ำคืน หรือในทุกวันพระจันทร์เต็มดวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีเดียวที่จะหยุดการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้ คือ ความตายเท่านั้น แฟรงเกนสไตน์ ปีศาจในวันฮาโลวีนแฟรงเกนสไตน์ เป็นชื่อของปีศาจหน้าตา น่าเกลียด เดินตัวแข็งทื่อ และมีพละกำลังเหนือมนุษย์ แต่ความจริงแล้ว วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ เป็นชื่อของนักวิทยาศาตร์ที่กระหายความรู้อย่างมาก จนกระทั่งได้พลั้งพลาดสร้างปีศาจตนหนึ่งขึ้นมาวิคเตอร์ เชื่อว่าวิทยาศาสตร์เป็นคำตอบของทุกๆ ปริศนาบนโลกใบนี้ วิทยาศาสตร์ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งสร้างมนุษย์ ซึ่งสำหรับชาวคริสต์แล้ว มีพระเจ้าเท่านั้นที่ทำได้ เพราะเหตุนี้เขาจึงทดลองสร้างมนุษย์ "สมบูรณ์แบบ" ขึ้นมา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง มนุษย์ผู้นี้กลับมีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ น่าเกลียดน่ากลัว จนแม้แต่ผู้สร้างยังวิ่งหนี เจ้า "ปีศาจ" หรือ "สัตว์ประหลาด" ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ จึงถูกทอดทิ้งให้ต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวและการปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากมนุษย์คนอื่นๆ เพียงลำพัง เจ้าปีศาจที่ถูกผู้สร้างทอดทิ้งนั้น มันไม่ต่างอะไรกับลูกที่พ่อแม่ทำให้เกิดมา แต่กลับทอดทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้น ความโหดร้ายที่ปีศาจตนนี้ต้องเจอก็คือ ความโดดเดี่ยวที่แปลกแยก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คนอื่นๆ ตัดสินมันจากรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งที่โดยเนื้อแท้แล้ว ตัวมันไม่ได้มีจิตใจชั่วเลวทรามแต่อย่างใด และจากการถูกปฏิเสธจากสังคมนี่เอง ที่ทำให้ในที่สุด มันกลายเป็นปีศาจที่พร้อมจะแก้แค้นทุกคนที่ทำร้ายมัน
จนต่อมาภาพพจน์ได้ตกต่ำลงผ่านมาหลายทศวรรษความคิดก็เริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวโดยเฉพาะเมื่อฮอเรช กวีชาวโรมัน เขียนถึงแม่มด 2 ตน ชื่อคาดิเนีย และซากาน่าซึ่งฮอเรชได้บรรยายไว้ว่า เป็นหญิงชราที่น่าเกลียดน่ากลัว ฟัน ยื่น คางงุ้ม ใบหน้าขาวซีด ผมสกปรกยุ่งเหยิง ไม่สวมรองเท้า กำลังเก็บสมุนไพรอยู่ในป่าช้า และฉีกเนื้อลูกแกะออกเป็นชิ้นๆด้วยมือเปล่าพวกเธอทำคุณไสย ด้วยการเอาเทียนมาปั้นเป็นรูปของเหยื่อและวิงวอนให้เทพธิดาแห่งนรก และนางปีศาจที่มีผมเป็นงูมาทำร้ายศัตรูของนางทั้งสองจากนั้นงูและสุนัขนรกจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น ภูตผีปีศาจส่งเสียงโหยหวนรูปปั้นขี้ผึ้งถูกโยนไปในกองไฟ ไฟลุกโชน ภาคลักษณ์จึงเป็นสิ่งที่ติดใจทุกคนจนทุกวันนี้นั่นเอง
ที่มา : https://www.sanook.com/campus/1402380/
|