ในยามที่เศรษฐกิจย่ำแย่ แต่ “ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” กลับสวนทาง

ในยามที่เศรษฐกิจย่ำแย่ แต่ “ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” กลับสวนทาง

“สิ้นเดือนเดือนเหมือนสิ้นใจ บะหมี่กึ่งไงตอบโจทย์”

ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ไมว่าจะจับจ่ายใช้สอยอะไร ตังค์ในกระเป๋าก็ฝืดเฟืองไปหมด แต่ก็ต้องเลี้ยงปากท้องกัน

และหนึ่งในที่อาหารที่พอจะประทังในเวลานี้ได้ ก็คือ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป”

นี่จึงเป็นที่มาของสินค้าที่สวนกระแสในเวลาที่เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย

หลายปีที่ผ่านมา ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

เติบโตยิ่งกว่าสินค้าชนิดอื่นเสียอีก

โดยในปี 2559 เติบโตกว่า 15,000 ล้านบาท

ในปี 2560 เติบโตกว่า 15,600 ล้านบาท

ในปี 2561 เติบโตกว่า 16,000 ล้านบาท

ในปี 2562 เติบโตกว่า 17,000 ล้านบาท

 

ข้อมูลในปีที่ผ่านมา ตลาดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

เติบโตเฉลี่ย 2-3% ต่อปี

แต่ถึงแม้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ก็ไม่สามารถที่จะขยายให้ก้าวกระโดดได้

เนื่องจาก ไลฟสไตล์การบริโภคของผู้คน

ที่เปลี่ยนไปในเทรนด์รักสุขภาพ

 

ข้อมูลปี 2560 มีการวิจัยออกมาว่าคนไทยทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เฉลี่ยถึง 49 ซองต่อคนต่อปี ครองอันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว

สำหรับการเลือกทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะถูกเลือกในช่วงเวลาที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายและด้วยความที่บะหมี่กึ่งมีราคาที่ไม่แพง

แถมยังช่วยให้อยู่ท้องได้จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยได้ในเวลาคับขัน


นอกจากนี้แล้ว บะหมี่กึ่งยังเป็นอีกทางเลือกในความสะดวกในการทานผู้บริโภคบางกลุ่มอาจจะทานในเวลาดึกหรือแก้เบื่อไปในบางครั้งคราว

หรือในบางครั้ง ก็เกิดคำถามโลกแตกที่ผุดขึ้นมาว่า “จะกินอะไรดี” และสุดท้ายก็จบที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป


สำหรับแบรนด์บะหมี่เจ้าดั้งเดิม

ที่ไม่ว่าใครก็ล้วนแล้วแต่ได้สัมผัสมา

ก็คือ 3 แบรนด์เถา

 

“ไวไว” บ้างแหละ “ยำยำ” บ้างแหละ

และคงจะหนีไม่พ้น “มาม่า”

แล้วถ้าถามว่าใครขายดีสุด ?

ก็คงจะหนีไม่พ้น “มาม่า” เจ้าเก่าเจ้าเดิม

โดยข้อมูลในปี 2562 ที่ผ่านมา

มาม่าครองสัดส่วนในตลาดไปกว่า 52%

 

ส่วน “ไวไว” คว้าอันดับ 2

ด้วยสัดส่วนในตลาด 24%

ไล่เลี่ยกับ “ยำยำ” ที่ครองสัดส่วน 23%

ส่วนที่เหลืออีก 1-2% เป็นของแบรนด์อื่น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพรวมในโลก

ไทยมีปริมาณการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

 

ติด Top10 มาตลอดในช่วงที่ผ่านมา

อย่างเช่นปี 2558 ติด Top9 ของโลก

และปี 2560 ขยับขึ้นมาติด Top5 ของโลก

และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีความต้องการในตลาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ปี 2558 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่มีความต้องการ

 

ในตลาดไทยถึง 3,070 ล้านซอง

ส่วนในปีต่อมา ปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 3,360 ล้านซอง แม้อัตราการเติบโตจะไม่สูงมากนักแต่ดีมานด์ที่โตเพียงน้อยนิดนี่แหละที่เป็นความท้าทาย

ว่าผู้ประกอบการจะหาทางปรับตัวในตลาดอย่างไร ? ในยุคที่เทรนด์สุขภาพมาแรงกว่าบะหมี่ซองทานง่าย 


ปิดท้ายกันด้วยชนชาติที่ทานบะหมี่เป็นอันดับหนึ่งของโลก นั่นก็คือ “เกาหลีใต้” คนเกาหลีทานบะหมี่เฉลี่ย 76 ซอง ต่อคนต่อปี

แถมยังเป็นผู้นำกระแสบะหมี่กึ่งแบบเกาหลีครองเจ้า การเป็นผู้นำแห่งการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

เมื่อคิดเป็นเม็ดเงิน จะมีมูลค่าปีละกว่า  11,000 ล้านบาท

 

(ไม่ว่าจะทานอะไร อย่าลืมดูแลสุขภาพ

และหมั่นออกกำลังกายกันด้วยนะครับ)

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/swivelthailand

Visitors: 1,237,025